Latest Recipe Bangkok

ครอบครัวสุขสันต์ มากินซันเดย์บรันซ์ที่ โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ สุรวงศ์

ไหนๆ ใครอยากกินบุฟเฟต์ ฟัวร์กรา กุ้งแม่น้ำเผา หอยนางรมสดๆ ก้ามปูอลาสก้า ปูม้านึ่ง ในมื้อกลางวันวันอาทิตย์แบบสบายๆกับ ซันเดย์บรันช์ บ้าง แถมที่นี่ยังฟรีบริการพี่เลี้ยงเด็ก กิจกรรมสำหรับเด็ก พร้อมที่นอนงีบตอนกลางวัน ระหว่างพ่อแม่กำลังมือเปื้อนกับอาหารทะเลด้วยนะ

เป็นที่ทราบกันว่าซันเดย์บรันช์ จะเป็นมื้ออาหารที่อร่อยและดีที่สุดที่ โรงแรมแต่ละแห่งจะจัดใหญ่กันเสมอ ให้เราได้ไปชิวไปเพลิดเพลินกับความเอร็ดอร่อยกัน แต่หลังจากเรามีลูกเราเองมีโอกาสทานซันเดย์บรันช์น้อยลง เพราะหลายครั้งที่เราไปทานกลับไม่ชิวเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ต้องดูแลลูก ทั้งให้กินข้าว ทั้งวิ่งไล่จับหลังจากลูกเราอิ่มแล้ว ฮา….

แต่กับที่นี่ โรงแรม เลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ ที่ตั้งอยู่ต้นถนนสุรวงศ์ ใจกลางกรุงเทพฯ นั้น นอกจากจะมีอาหารที่แสนอร่อยแล้วที่นี่ ยังมีบริการ พี่เลี้ยงเด็ก ที่จะพาลูกๆของเราหลังจากอิ่มไปเล่น ให้เราได้มีโอกาสละเลียดอาหารอร่อยๆอย่างฟินๆไปเลย นอกจากนั้นยังมีบริการคลาสทำอาหารให้เด็กๆได้ไปสนุกสนานฟรีๆอีกด้วยนะ

จนตอนนี้ครอบครัวเราขอยกให้ที่นี่ โรงแรม เลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในซันเดย์บรันช์ที่ดีที่สุดสำหรับคนมีครอบครัวเลยละ

ซันเดย์บรันช์ที่โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ สุรวงศ์จะจัดกันที่ห้องอาหาร Latest Recipe ซึ่งอยู่ที่ชั้น 2 ของโรงแรมสามารถขึ้นลิฟท์จากที่จอดรถขึ้นมาได้เลย ห้องอาหารจัดได้สวยงาม โปร่ง โล่งสบาย เชียวล่ะ

ราคาต่อหัวของสำหรับซันเดย์บรันช์ ที่ห้องอาหาร Latest Recipe นั้นจะเป็นไปตามนี้

• ราคาผู้ใหญ่อยู่ที่ 1,700 บาท Nett
• เด็กอายุ 0-3 ขวบทานฟรี
• เด็กอายุ 4-12 ขวบจะลด 50%

แต่สำหรับช่วงวันที่ 19 สิงหาคม – 9 กันยายน 2561 นี้ทางโรงแรมมีโปรสุดพิเศษมาให้คือ ท่านที่ 2 ลดราคา 50% ไปเลย และเด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบกินฟรีไปเลย 1 คน โดยมีขั้นตอนการจองและขอรับสิทธิ์นี้ดังนี้

• โทรไปที่เบอร์ 02-232-8888 ต่อสายห้องอาหารเลเทส เรซิพี
• จองที่นั่งและแจ้งว่า “ขอรับสิทธิ์จาก Facebook Page “Travel Planet Xperiences”
• Like Facebook “Le Meridien Bangkok” และ  Add Line “@clubmarriott” โดยนำมาแสดงให้พนักงานที่ร้านดูในวันที่มาทานอาหารเพื่อรับสิทธิ์พิเศษดังกล่าว
• สิทธิพิเศษนี้สำหรับการจองทานในวันที่ 19 สิงหาคม – 9 กันยายน 2561 เท่านั้น

นอกจากอาหารแล้วหากใครชื่นชอบไวน์ สามารถสั่งแพ็คเกจเครื่องดื่มไวน์เพิ่มเติมได้ในราคา 700 บาทสุทธิต่อท่าน ซึ่งจะมีทั้ง ไวน์ สปาร์คกลิ้งไวน์ และ เบียร์ให้ทานตลอดมื้ออาหารอย่างไม่อั้นเลย

มาดูอาหารกันก่อนดีกว่า สำหรับ ซันเดย์บรันช์ ที่นี่จะมาในธีม “La Dolce Vita, From Nice to Portofino + The Heart of Asia” โดยอาหารที่นำมาปรุงนั้นจะได้รับแรงบันดาลใจมาจากแถบเมืองนีซประเทศฝรั่งเศสไล่ไปจนถึงเมืองพอตโตฟิโน่ประเทศอิตาลี ซึ่งก็คืออาหารแนวเมดิเตอร์เรเนี่ยนนั่นเอง

เริ่มจาก Seafood on Ice  ที่จัดเต็มมาทั้ง ปูม้า กุ้ง หอยแมลงภู่ ขาปูอลาสกา และหอยนางรมซึ่งมีให้เลือกกินถึง 3 สายพันธ์ ซึ่งรวมไปถึงหอยนางรมที่ว่ากันว่าอร่อยที่สุดในโลกอย่าง Fine de Claire ด้วยนั่นเอง

โดยตัวหอยนางรมนี้วันที่ครอบครัวเราไปทางเชฟจะทำเป็นเมนูพิเศษ เรียกว่าอะไรไม่ทราบเหมือนกัน เชฟพูดแค่ว่า This is Oyster day แล้วก็พูดว่า Oyster Spacial แล้วก็พูดว่าอร่อย เราเลยหยิบมาทานดู ในจานจะเป็นหอยนางรมเอาไปทำ 3 แบบ แบบแรกจะเป็นหอยนางรมในซอสส้ม ซึ่งเราชอบอันนี้ที่สุดทานแล้วหอมหวานสดชื่นมากๆ อันที่ 2 จะเป็นหอยนางรมซอสเสาวรส อันนี้ก็ใช้ได้นะไม่ได้เปรี้ยวจี๊ดแบบที่เรากลัวตอนแรก และอันสุดท้ายทำมาคล้ายๆ Tuna Tartare เราจัดจานนี้ไป 2 จานรวดเลย…

ส่วนอาหารญี่ปุ่นก็จะราวๆนี้ ลายปลาสวยงามมาก เชฟแล่ เนื้อมาหนากับลังพอดีคำเลย

นอกจากซาซิมิแล้วยังมีแนวปลารมควันที่เชฟแล่ไว้ให้เราสามารถคีบไปทานเปล่าๆได้เลย หรือจะให้เชฟปรุงให้ก็ได้ อันนี้เราชิมแล้วเราว่าเฉยๆ ไม่ทานก็ถือว่าไม่ได้พลาดอะไรไปเท่าไหร่

นอกจากนั้นที่ห้องอาหารจะเน้นอาหารแบบปรุงสดใหม่ เกือบทุกเมนูเราจะต้องเอาคลิปเบอร์โต๊ะที่เรานั่งไปเสียบไว้แล้วทางเชฟจะปรุงอาหารให้สดๆใหม่ๆแล้วนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะของเราเอง โดยตัวชูโรงจะเป็นฟัวร์กรา ซึ่งจะเสิร์ฟมาพร้อมกับเห็ดย่างและไข่ลวก ซึ่งเราว่าตัวไข่ลวกที่แหละที่เสริมให้รสชาติของฟัวกราส์ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าใครไม่อยากทานไข่ก็สามารถบอกทางเชฟได้นะ

นอกจากนั้นยังมีเมนูอร่อยๆอีกมากมายเลย ซึ่งอย่างที่บอกทางโรงแรมจะทำจานตัวอย่างไว้ และให้เราเอาเบอร์โต๊ะเราไปหนีบไว้ ซึ่งเมนูตรงนี้แต่ละอาทิตย์อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ วันที่ครอบครัวเราไปมีทั้ง เป็ด หมู ปลา และเนื้อเลย ซึ่งอาหารหมวดนี้เราว่าทำได้ดีนพ อาหารแต่ละอย่างปรุงรสชาติออกมาได้ลงตัว และดูพิถีพิถันในการปรุงดีเลย

มาต่อกันที่ซุ้ม Carving กันจะมี เนื้อและหมูให้ทานกันครับ

แน่นอนว่าในเมื่อธีมอาหารครั้งนี้มีอิตาลีอยู่ด้วยก็ต้องมีพิซซ่าให้กินด้วย

นอกจากนั้นใกล้ๆกันก็มีพาสต้าสเตชั่น ที่เราสามารถเลือกได้ทั้งประเภทของเส้น และเลือกซอสได้ด้วย

ใครอยากได้ชีสเยอะๆก็ตักเพิ่มเอาเองได้เลยจ้า

สำหรับซุ้มกริลล์ที่แนะนำคือ กุ้งลายเสื้อ ตัวใหญ่กำลังดี เนื้อเด้งหวาน นิพพาน พูดเลย

สำหรับใครที่ทานอาหารฝรั่งจนเลี่ยนแล้วให้แวะมาที่ซุ้มส้มตำเลย มีทั้งส้มตำ ยำ และไส้กรอกอีสาน อยากได้เผ็ด ได้เปรี้ยวขนาดไหนบางเชฟได้เลย เพราะเค้าทำครกต่อครก ไม่ได้ทำทิ้งเอาไว้ให้เราตักนะ

นอกจากนี้ยังมีซุ้มข้าวซอยให้กินด้วยนะ

ของคาวว่าเยอะแล้ว ของหวานที่นี่ถือว่าจัดเต็มไม่น้อยเลยละ ชิมอย่างละนิดอย่างละหน่อย รู้สึกเลยว่าน้ำตาลในเลือดพุ่ง 5555

อาหารเยอะขนาดนี้ พูดเลยว่าต้องค่อยๆใช้เวลาในการละเลียดๆไปเรื่อยๆ ซึ่งที่ห้องอาหารนี้ให้เวลาเราเต็มๆถึง 4 ชม. ตั้งแต่ 12:00-16:00 เรียกว่ากินไปเรื่อยๆเพื่อมื้อเย็นได้เลยนะ ฮ่าๆๆ ตอนแรกเราก็ไม่แน่ใจว่าครอบครัวเราจะได้กินนานขนาดไหน เพราะอย่างที่บอกว่าพาลูกไปด้วย แต่ตอนเดินๆดูไลน์อาหารเราเจอมุม Kid Corner ที่เค้าจัดให้เด็กๆสามารถลงไปนั่งเล่นได้ด้วยนะ

ตอนแรกเรากะว่าจะผลัดกับแฟนเราพาลูกลงมาเล่นตรงนี้ เพราะถึงที่นี่เค้าจะบอกว่ามีบริการพี่เลี้ยงเด็กให้ แต่ลูกเราไม่เคยยอมอยู่กับพี่เลี้ยงเด็กที่ไหน เพราะบ้านเราเลี้ยงกันเองพ่อแม่ลูกมาตลอด แต่ปรากฎว่า พอเราพาลูกเรามานั่งเล่นตรงนี้ พี่เลี้ยงเด็กมาเล่นด้วย ปรากฏว่าน้องโฟกัสวันนี้ยอมเล่นกับพี่เลี้ยงเด็กของโรงแรมด้วย คือเป็นที่แรกเลยนะที่เอาน้องโฟกัสอยู่ อิพ่อ อิแม่ก็เลยฟินเลย 555

แล้วตอนบ่ายสองที่นี่มี Workshop ให้เด็กๆทำ Pizza และ Cupcake ด้วยนะ ที่สำคัญคือฟรีด้วย น้องโฟกัสชอบมากเลยละ

เห็นน้องโฟกัสตั้งใจนวดแป้งแล้วชอบมาก คือนางกดแป้งจนแขนสั่นเลย แต่คือแรงยังน้อยไง แป้งเลยยังไม่แบนเท่าไหร่ 555

วันนี้เลยถือเป็นวันหนึ่งที่ครอบครัวเรามีความสุขมากๆในการมากินซันเดย์บรันช์ที่ห้องอาหาร Lateset Recipe ทั้งอาหารอร่อย มีพี่เลี้ยงเด็ก (ที่เอาน้องโฟกัสอยู่) แถมยังมี Workshop สนุกๆให้น้องโฟกัสเล่นอีกด้วย

บทสรุป Latest Recipe Bangkok

ครอบครัวสุขสันต์ มากินซันเดย์บรันซ์ที่ โรงแรมเลอ เมอริเดียน กรุงเทพฯ สุรวงศ์

เป็นห้องอาหารซันเดย์บรันช์ที่เหมาะกับครอบครัวที่มีเด็กเล็กมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ

• ทำเลอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ต้นถนนสุรวงศ์ เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถไฟฟ้า
• เน้นอาหารแนวเมดิเตอเรเนี่ยนตาม Concept La Dolce Vita, From Nice to Portofino + The Heart of Asia
• ฟัวกราส์เสิร์ฟพร้อมไข่ลวก คือดีรสชาติเข้ากันอย่างไม่น่าเชื่อ (เพราะลองสั่งแบบไม่มีไข่ปรากฏว่าอร่อยไม่เท่าแบมีไขลวกมาด้วย) แต่ Station นี้ใช้เวลาทำนานหน่อยนะ ถ้าอยากกินเยอะๆก็สั่งทีเดียวหลายชุดหน่อย
• Seafood on Ice มาเต็มๆมีทั้ง ปูม้า กุ้ง ขาปูอลาสก้า และหอยนางรม
• หอยนางรมจัดเต็มมี Fine de Claire หอยนางรมที่ดีที่สุดในโลกเสิร์ฟด้วย
• หอยนางรม Chef Special อร่อยมากโดยเฉพาะตัวที่ปรุงกับซอสส้ม
• กุ้งลายเสือที่ซุ้มกริลล์ โคตรอร่อยและโคตรสด ตัวใหญ่พอดีๆ ไม่เล็กเหมือนบุฟเฟ่ต์โรงแรมทั่วไป
• มี Kid Corner ให้เด็กไปวิ่งเล่นได้อย่างสนุก แถมยัง มีบริการพี่เลี้ยงเด็กช่วยดูแลลูกน้อยให้ระหว่างที่พ่อแม่ทานข้าวด้วยนะ อันนี้คือเลิศ แถมพี่เลี้ยงเด็กเก่งมาก สามารถเล่นกับน้องโฟกัสได้จนยอมปล่อยให้อิพ่อ อิแม่ไปนั่งกินของอร่อยๆได้อย่างสบายอุรา
• มี Workshop สอนทำอาหาร (Pizza และ cup cake) ให้เด็กๆไปทำสนุกสนาน
• ทานได้เต็มๆ 4  ชม. ตั้งแต่ 12:00 – 16:00 เรียกว่ากินลากยาวเพื่อมื้อเย็นไปได้เลย
• มีแพ็คเกจ บุฟเฟ่ต์ เบียร์ ไวน์ และสปาร์คกลิ้งไวน์ ในราคาสุทธิ 700 บาทต่อคน

โปรโมชั่นพิเศษช่วงวันที่ 19 สิงหาคม – 9 กันยายน 2561 นี้

• ท่านที่ 2 ลดราคา 50% ไป
• เด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบกินฟรีไปเลย 1 คน

โดยมีขั้นตอนการจองและขอรับสิทธิ์นี้ดังนี้

• โทรไปที่เบอร์ 02-232-8888 ต่อสายห้องอาหารเลเทส เรซิพี
• จองที่นั่งและแจ้งว่า “ขอรับสิทธิ์จาก Facebook Page “Travel Planet Xperiences”
• Like Facebook “Le Meridien Bangkok” และ  Add Line “@clubmarriott” โดยนำมาแสดงให้พนักงานที่ร้านดูในวันที่มาทานอาหารเพื่อรับสิทธิ์พิเศษดังกล่าว
• สิทธิพิเศษนี้สำหรับการจองทานในวันที่ 19 สิงหาคม – 9 กันยายน 2561 เท่านั้น

หากคุณชอบรีวิวของเราเพียงแค่คอมเม้น แชร์ก็จะเป็นกำลังใจอย่างยิ่งหรือหากอยากติดตามประสบการณ์ดีๆไปกับพวกเราเพียงBookmark http://www.travelplanetx.com หรือติดตามได้ที่ Facebook Fan Page: Travel Planet Xperiences